โรคเบาหวาน
...แค่ได้ยินก็ทรมานแล้ว
คนไทยกว่า 4 ล้านคน ต้องทรมานจากโรคเบาหวาน
สถิติของคนเป็นเบาหวาน
ไม่เพียงเท่านั้น คาดว่าอีก 24 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2583)
โรคเบาหวานนำไปสู่ โรคร้ายแรงต่อชีวิตอีกมาก
ไม่ว่าจะเป็น.....
โรคหัวใจวาย
โรคไตวาย
โรคเส้นเลือดแดงอุดตัน
จอประสาทตาเสื่อม
ตาบอด
ติดเชื้อได้ง่าย
แผลหายช้า ทำให้ตัดขา
ระบบประสาทเสื่อม
ชาตามปลายมือ ปลายเท้า
โรคแทรกซ้อนเหล่านี้ ล้วนทำให้ผู้ป่วยทนทุกข์ทรมานจากการป่วยด้วยโรคเบาหวาน และสุดท้าย ผู้ป่วยก็เสียชีวิต
เบาหวานเกิดได้อย่างไร?
การเกิดโรคเบาหวาน มีความสัมพันธ์กับฮอร์โนที่สร้างจากตับอ่อน คือ ฮอร์โมนอินซูลิน (INsulin)
อินซูลินจะเป็นตัวนำน้ำตาล ซึ่งเป็นน้ำตาลกลูโคส (Glucose) จากเลือดเข้าสู้เซลล์ของอวัยวะต่างๆ
ทั่วร่างการ เช่น สมอง ตับ ไต และหัวใจ ทั้งนี้เพื่อให้เซลล์ต่างๆ นำกลูโคนไปใช้เป็นพลังงานในการ
ทำงานต่างๆ ของเซลล์ ทุกชนิดทั่วร่างกาย
ทั่วร่างการ เช่น สมอง ตับ ไต และหัวใจ ทั้งนี้เพื่อให้เซลล์ต่างๆ นำกลูโคนไปใช้เป็นพลังงานในการ
ทำงานต่างๆ ของเซลล์ ทุกชนิดทั่วร่างกาย
แต่เมื่อเกิดความผิดปกติต่างๆ เช่นตับอ่อนสร้างอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดความผิดปกติบางอย่าง
ที่ทำให้เซลล์ไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ได้ ถึงแม้ตับอ่อนสร้างอินซูลินได้ตามปกติ ที่เรียกว่า
เซลล์ดื้อต่ออินซูลีน (Insulin resistance) หรือเกิดทั้งสองเหตุการณ์พร้อมกัน จึงส่งผลให้มีน้ำตาล
เหลือค้างในเลือดสูงมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ขึ้น
ซึ่งก็คือโรคเบาหวานนั่นเอง
ที่ทำให้เซลล์ไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ได้ ถึงแม้ตับอ่อนสร้างอินซูลินได้ตามปกติ ที่เรียกว่า
เซลล์ดื้อต่ออินซูลีน (Insulin resistance) หรือเกิดทั้งสองเหตุการณ์พร้อมกัน จึงส่งผลให้มีน้ำตาล
เหลือค้างในเลือดสูงมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ขึ้น
ซึ่งก็คือโรคเบาหวานนั่นเอง
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติเหล่านี้ขึ้นนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากการศึกษาพบว่า
เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนซึ่งเกิดจากทั้งพันธุกรรม และวิถีการใช้ชีวิตนั่นเอง
เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนซึ่งเกิดจากทั้งพันธุกรรม และวิถีการใช้ชีวิตนั่นเอง
โรคเบาหวานไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่เกิดจากการเสื่อมมาระยะยาวนาน
อาจนาน 5-10 ปี คุณจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าวันนี้
อินซูลินคุณยังไม่เสื่อม ในเมื่ออาหารการกินมีแต่รสหวาน
แพทย์วินิจฉัยเบาหวานได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยโรคเบาหวานได้จาก ประวัติอาการ ประวัติการเจ็บป่วยต่างๆ
ประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว การตรวจร่างกาย และที่สำคัญ
คือการเจาะเลือดเพื่อดูปริมาณน้ำตาลในเลือด
เบาหวาน คือ ค่าน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร
สูงตั้งแต่ 126 มก./ดล. ขึ้นไป
และ/หรือ
ค่าจีทีที สูงตั้งแต่ 200 มก./ดล. ขึ้นไป
โรคเบาหวาน มีอาการอย่างไร ?
- เหนื่อย อ่อนเพลีย
- ผิวแห้ง เกิดอาการคันบริเวณผิว
- ตาแห้ง
- มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า
- ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่สามารถหาสาเหตุได้
- เมื่อเกิดบาดแผลที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายมักหายช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะแผลที่เกิดกับบริเวณเท้า
- สายตาพร่ามัวในแบบที่หาสาเหตุไม่ได้
- เหนื่อย อ่อนเพลีย
- ผิวแห้ง เกิดอาการคันบริเวณผิว
- ตาแห้ง
- มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า
- ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่สามารถหาสาเหตุได้
- เมื่อเกิดบาดแผลที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายมักหายช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะแผลที่เกิดกับบริเวณเท้า
- สายตาพร่ามัวในแบบที่หาสาเหตุไม่ได้
ในทุกๆ เดือนคุณต้องทนความเจ็บ
ในการเจาะเลือดไปนานแค่ไหน
ที่เจาะวันไหน ค่าน้ำตาลก็ไม่ลดลงซักที
รู้ไหมยารักษาโรคเบาหวานที่คุณกินมากมาย
จะเกิดต่อตับและไตของคุณในระยะยาว
แล้วนอกจากการกินยาและฉีดอินซูลินแล้ว
มีวิธีอื่นบ้างมั้ย
...........................................................................
"ทางรอด" ของคน "ที่เลือก"
ร่างกายมนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยมีกลไกในการฟื้นฟู ซ่อมแซม และบำบัดรักษาตัวเองที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด หรือที่เรียกว่า กลไกปกป้องและซ่อมแชมการสึกหรอ (Aging Defense Mechanisms : ADMs)
แต่เมื่อการทำงานของกลไกปกป้องและซ่อมแซมการสึกหรอนี้เสื่อมประสิทธิภาพ
ทั้งจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก และภายในร่างกายเอง ทำให้สุขภาพเสื่อมถอยลง
ผลการศึกษาวิจัยจากสถาบัน LifeGen ประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่ศึกษาเรื่องการแสดงออกของยีน ซึ่งทำการวิจัยมามากกว่า 30 ปี
ผนวกกับสถาบันวิจัยผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนเกือบ 4,000ล้านบาท
ได้ออกนวัตกรรมเพื่อการต่อต้านความเสื่อมชราแบบองค์รวม
ซึ่งได้พัฒนาพื้นฐานการแสดงออกของยีน ที่เฉพาะเจาะจง
กับกระบวนการแก่ชราของเซลล์ในอาสาสมัครทั่วโลกที่รับประทาน
ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%
ที่หาได้ยากจากการรับประทานอาหารทั่วไป และด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า
จะช่วยเพิ่มการดูดซึม และนำส่งสารสำคัญเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี Age LOC Y-SPAN
Inflammation หรือกลไกการอักเสบในร่างกายจะทำลาย DNA ของมนุษย์ อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคจากความเสื่อมต่าง ๆ
ที่ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง อัมพาต อัมพฤกษ์ สะเก็ดเงิน โรคอัลไซเมอร์ โรคกระดูก เสื่อม ข้อเสื่อม รูมาตอย และมะเร็ง
การรักษาที่ต้นตอของการเกิดโรคคือ การควบคุม และลดการอักเสบ
ในร่างกายให้น้อยที่สุด เพื่อชะลอการทำลาย DNAทำให้ระดับของ
ความเสื่อมของเซลล์ทั่วทั้งร่างกายช้าลงการบำบัดเซลล์รูปแบบนี้
มีด้วยกันหลากหลายวิธีซึ่งล้วนราคาแพงหลายแสนบาทต่อการบำบัดหนึ่งครั้ง
แต่ด้วยเทคโนโลยี Ageloc สามารถทำให้คุณบำบัดเซลล์
ฟื้นฟูการทำงานระดับยีน ให้ควบคุมการอักเสบทั่วทั้งร่างกาย
ไม่ต้องทรมานกับการปวด
ไม่ต้องตัดแขน ตัดขา
ไม่ต้องเสียอวัยวะ
เพราะเราห่วงคนที่เรารัก..
นพ.สมโภช นิปกานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านยีน
เปิดเผยผลการตรวจการอักเสบระดับยีนและวิธีการลดการอักเสบระดับลึกถึงยีน
เพื่อลดความเสี่ยงมะเร็ง หลอดเลือดสมองและหัวใจ เบาหวาน รูมาตอย์ อัมพฤกษ์อัมพาต
และโรคที่เกี่ยวข้องกับยีนทั้งหมด
ให้เค้ากลับมาแข็งแรง...เหมือนเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น